นม แม่ ใสๆคืออะไร มีประโยชน์ไหมนะ

คุณแม่ที่ให้นมลูกเองน่าจะต้องเคยเจอ นม แม่ ใสๆกันบ้าง ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายที่คุณแม่บางคนคิดว่าน้ำนมลักษณะนี้ไม่มีประโยชน์น่าจะมีลักษณะเป็นน้ำเปล่ามากกว่าจึงบีบทิ้งไป ซึ่งความจริง ความใสของนมเกิดจากการทิ้งช่วงในการให้ลูกดูด หรือทำการปั๊มนมนานเกินไป  เมื่อลูกเริ่มดูดใหม่น้ำนมจึงใสได้ แต่ถึงแม้จะใสก็ยังคงมีคุณประโยชน์ของน้ำนมเหมือนเดิม เราลองมาดูการทำงานของนมแม่กันดีกว่า

นมแม่มีลักษณะอย่างไร

ในน้ำนมแม่ ประกอบด้วยน้ำนม 2 ส่วนสำคัญ คือ น้ำนมส่วนหน้า หรือที่เราเห็นเป็น นม แม่ ใสๆ นั่นเอง และ น้ำนมส่วนหลังที่มีลักษณะข้นกว่า

- น้ำนมส่วนหน้า (น้ำนมใส) จะมีลักษณะเป็นสีขาวใส เนื่องจากประกอบไปด้วยน้ำเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งยังมีน้ำตาลแลคโตสอยู่มาก ซึ่งถึงแม้ว่าน้ำนมส่วนนี้จะใสแต่ก็ยังคงมีภูมิคุ้มกันของแม่อยู่ปกติครบถ้วน ลูกสามารถดื่มเพื่อดับความกระหาย พร้อมทั้งได้รับพลังงาน อีกทั้งช่วยในเรื่องการขับถ่ายของลูกให้สะดวกขึ้น ดังนั้นคุณแม่จึงสามารถให้ลูกดูดได้ตามปกติ แต่ถ้าจะให้ดีควรให้ลูกได้ดูดจนถึงช่วงนมส่วนหลัง และให้ลูกดูดจนเกลี้ยงเต้า หากเป็นการปั๊ม ก็ควรจะปั๊มให้เกลี้ยงเต้าด้วยเช่นกัน

- น้ำนมส่วนหลัง

เมื่อผ่านน้ำนมช่วงหน้าหรือนมใสๆมาได้ระยะหนึ่งก็จะเจอกับน้ำนมส่วนหลัง ที่มีสีค่อนเหลือง และมีความข้นมากกว่าน้ำนมส่วนหน้า ที่เป็นแบบนี้เพราะน้ำนมส่วนหลังจะประกอบไปด้วยไขมันที่มีประโยชน์ มีโปรตีน และสารอาหารอื่นๆที่จำเป็นต่อลูกมากมาย อีกทั้งยังคงมีภูมิคุ้มกันให้กับลูกด้วย เมื่อลูกดูดนมช่วงนี้จะทำให้อิ่มท้อง มีน้ำหนักตัวดี และไม่ถ่ายบ่อย

จะเห็นได้ว่า นม แม่ ใส ๆก็มีประโยชน์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านมขุ่นๆเลย แถมน้ำนมใสจะมีแค่ช่วงต้นๆของการดูดเท่านั้น ดังนั้นอย่าได้หลงบีบทิ้งเพราะมันน่าเสียดายมาก สู้ให้ลูกกินทั้งนมส่วนหน้าและส่วนหลังอย่างเพียงพอจนหมดเกลี้ยงเต้า ลูกน้อยก็จะเจริญเติบโตแข็งแรงอย่างมีคุณภาพแน่นอน ส่วนคุณแม่ท่านไหนที่มีปัญหาในเรื่องน้ำนมน้อยไม่ค่อยเพียงพอ ก็ควรพักผ่อนมากๆ ไม่เครียด ดื่มน้ำเยอะๆแล้วให้ลูกดูดนมบ่อยๆ ร่างกายก็จะเร่งสร้างน้ำนมใหม่ออกมาเพียงพอสำหรับลูก แต่ถ้ายังไม่ได้ผลก็อาจกินพวก หัวปลี น้ำขิง หรือหายาสมุนไพรอย่าง ลูกซัด ยาประสระน้ำนม ก็คงพอช่วยได้เช่นกัน แค่นี้ลูกก็มีน้ำนมดีๆดื่มกินอย่างเพียงพอและมีประโยชน์แล้ว

ที่มา: น้ำนมใสมีประโยชน์ คุณแม่อย่าบีบทิ้ง !!  http://www.maerakluke.com/topics/2009